ชี้เป้า!!ร้านอาหารเด็ดในมิลานที่ไม่ควรพลาด (อิตาลี ตอน 3)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพาไปร้านอาหารระดับมิชลินในมิลาน วันนี้ลองมาดูร้านเด็ดอื่นๆบ้าง ร้านแรกที่จะพาไปชิมความอร่อยอยู่ท่ามกลางบรรยากาศและวิวดีๆ คือ GIACOMO ARENGARIO ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ Duomo หรือโบสถ์ใหญ่ที่สุดของเมือง จุดสำคัญแหล่งท่องเที่ยว ร้านนี้อยู่บนตึกที่เป็น Art Gallery ตกแต่งในสไตล์ Art-Deco มีด้านที่เป็นห้องโถงกระจก โล่งโปร่ง มีระเบียง สามารถชมวิวของ Piazza del Duomo หรือจัตุรัสหน้าโบสถ์ที่สวยงาม
ร้านนี้ควรมาทานมื้อกลางวัน อาหารสไตล์ Bistro ผสมผสานกลิ่นอายของอาหารชาวเมืองมิลาน มีความพิถีพิถันในเรื่องการจัดจานนำเสนอ คุณภาพของวัตถุดิบ และ การบริการ ราคาต่อหัว 2,000.-บาท ขึ้นไป (มื้อกลางวัน) เมนูอาหารกลางวันแบ่งเป็นคอร์ส เรียกน้ำย่อย จานหลัก และ ของหวาน สามารถเลือกสั่งคอร์สละจานก็ได้ หรือ อาจสั่ง เรียกน้ำย่อย 2 จานก็ได้เช่นกัน เพราะ ในประเภทจานพาสต้า เขาจัดอยู่ใน เรียกน้ำย่อย แต่คนไทยทานน้อย มื้อกลางวันจานเดียวอิ่ม
เมนูแนะนำร้านนี้ Foie Gras Terrine ,Oat Roasted Pear ,Candied Red Chickory (25.-ยูโร) เทอร์รีนตับห่านกับลูกแพร์ เข้ากันเป็นอย่างดี Linguini pasta from Granano with Seafood (26.- ยูโร) เส้นลิงกวินีผัดกับซีฟู้ด เส้นอร่อยสุกกำลังดีผัดกับซีฟู้ดรสกลมกล่อมมาก Iberian pork,Anticucho,Roots,Tubers,Nduja and Ajies sauce (26.-ยูโร) จานนี้เป็นอาหารจานหลัก เนื้อหมูไอบีเรียน หรือหมูเล็บดำ มีเนื้อนุ่มมากปรุงกับซอสที่มีกลิ่นของเครื่องเทศเป็นจานที่ปรับรสชาติให้มีเสน่ห์ดูมีเอกลักษณ์ราวกับแฟชั่นแห่งเมืองมิลาน
และที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเยือนอิตาลีก็ต้องลองพิซซ่า เพราะ ในแต่ละภาคนั้นพิซซ่าเขาจะมีความแตกต่างกัน ร้านที่สองนี้ ชื่อ Pizzium เป็นร้านที่กล่าวขานถึงมากมาย ติดอันดับต้นๆในมิลานเลยดีเทียว มีหลายสาขา แต่ที่ได้ไปเยือนจะอยู่นอกเมืองไปนิด มีรถใต้ดิน รถราง จึงสะดวกและไปง่าย ร้านนี้ขายพิซซ่าโดยเฉพาะในแบบฉบับ Neapolitan จุดเด่นคือแป้งของพิซซ่าร้านนี้มีความหอมที่เกิดจากการเก็บหมักแป้งโดไว้นาน 72 ชั่วโมง คนอิตาเลียนเชื่อว่า การทิ้งยีสต์ให้ขึ้นช้าๆโดยใช้เวลานานถึง 72 ชั่วโมง จะดีต่อระบบการย่อย เมื่อทานพิซซ่าไปแล้วจะไม่แน่นท้อง และที่ร้านนี้ใช้เตาอิฐในการอบ และไม่มีเมนูพาสต้า มีเพียงจานเรียกน้ำย่อย ซึ่งส่วนใหญ่ จะมีแฮม ซาลามี่ ชีส Caprese ขนมปังที่มีหน้าเป็นมะเขือเทศบ้าง ชีสบ้าง ที่เรียกว่า Bruschetta และร้านนี้ ไม่มีพาสต้าขาย
เมนูคลาสสิคพิซซ่า ยอดนิยมอันดับหนึ่ง คือ Margherita (7.00.-ยูโร)มังสวิรัติ ซึ่งประกอบด้วยวัตถุดิบ 3 สี เหมือนธงชาติอิตาลี สีแดงจากซอสมะเขือเทศ สีขาวของชีสมอสซาเรลล่า และ สีเขียวจากใบโหระพาอิตาเลียน Italian Basil คนไทยเราจะคุ้นเคยกับพิซซ่าที่ใส่ซอสมะเขือเทศแต่ในอิตาลีแล้วพิซซ่าอาจไม่มีซอสมะเขือเทศ แต่จะเป็นชีส หรือวัตถุดิบอื่นๆก็ได้ ดังนั้นมีจุดให้สังเกตเวลาเลือกสั่งพิซซ่า ถ้าอ่านเมนูภาษาอิตาเลียน ซอสมะเขือเทศ จะระบุไว้ว่า San Marzano Tomato เป็นอันใช้ได้ ชาวอิตาเลียนไม่ว่าผู้หญิง หรือ ผู้ชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ก็จะสั่งพิซซ่าทานกันคนละ 1 ถาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้ว ราคาอาหารร้านนี้เฉลี่ยต่อมื้อ คนละ 500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคากลางๆทานได้ทุกเพศทุกวัย
ถ้าแวะผ่านไปมิลานลองดูร้านนี้ แนะนำให้ไปตั้งแต่ 6 โมงเย็น ไม่งั้นคิวจะยาวออกมานอกถนนเลย ศุกร์หน้ายังมีร้านเด็ดๆมาฝากกันอีก แล้วพบกันใหม่……………มาดามตวง
GIACOMO ARENGARIO
Via Guglielmo Marconi, 1, 20123 Milan Tel. +39 02 7209 3814
www.giacomoarengario.com
Pizzium
Via Giulio Cesare Procaccini, 30, 20154 Milano MI, Italy Tel +39 02 3360 7623
www.pizzium.com